ฟุตบอลไทย

แค่ได้ยินข่าวก็ตื่นเต้นแล้วเมื่อ “เมสซี่เจ” กำลังจะได้จะได้ไปลุยลาลีกา

นับเป็นข่าวที่สร้างความฮือฮาให้กับวงการลูกหนังเมืองไทยอย่างมาก สำหรับข่าวที่มีทีมเอลเช่น้องใหม่แห่งลาลีกา ลีกฟุตบอลอาชีพระดับสูงสุดของประเทศสเปนกำลังมีความสนใจในการที่จะดึงตัว นักเตะจอมทัพขวัญใจแฟนบอลชาวไทยอย่าง “เมสซี่เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ ไปร่วมทีมในช่วงปลายปีนี้ ว่ากันว่าทางสโมสรเอลเช่ทีมที่พึ่งจะเลื่อนชั้นกลับขึ้นมาสู่ลีกสูงสุดได้ในฤดูกาลนี้นั้น แสดงออกอย่างจริงจังแล้วว่าต้องการตัวของชนาธิปไปร่วมทีมจริง โดยมรการยื่นข้อเสนอหยั่งเชิงโดยตรงมายังคอนซาโดเร่ ซัปโปโรต้นสังกัดปัจจุบันในเจ ลีกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และถ้าหากว่าทั้งสองทีมสามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ชนาธิปก็จะได้ย้ายสู่แดนกระทิงดุทันทีที่ลีกของประเทศญี่ปุ่นจบลงในช่วงเดือนธันวาคม ซึ่งก็จะทำให้เขาได้ลงเล่นในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาลในลาลีกา ซึ่งหากการย้ายทีมครั้งนี้เกิดขึ้นจริงจะทำให้ ชนาธิป สงกระสินธ์กลายเป็นนักฟุตบอลสัญชาติไทยคนที่สอง ที่ได้ลงเล่นในลีกสูงสุดของประเทศสเปน ตามหลังกองหน้ารุ่นพี่อย่างธีรศิลป์ แดงดาที่เคยลงเล่นให้กับทีม อัลเมเรีย มาก่อนเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ซึ่งในกรณีของเจ้ามุ้ยนั้นถึงแม้ว่าจะได้รับโอกาสลงสนามน้อยไปหน่อยแต่ก็ถือว่าสามารถทำผลงานได้ดีพอสมควรเลยเมื่อได้รับโอกาสลงสนาม และในส่วนของเจนั้นน่าจะได้รับโอกาสลงเล่นมากกว่าเพราะมีผลงานในเจลีกเป็นสิ่งที่ช่วยการันตีความสามารถมาแล้วมากพอสมควร และเชื่อว่าเอลเช่เองก็คงจะเล็งเห็นว่าการเล่นของเขาสามารถช่วยทีมในการหนีตกชั้นของพวกเขา มากกว่าที่จะเป็นการซื้อตัวเพื่อการตลาดอย่างแน่นอน การเล่นในลาลีกานั้นถึงแม้ว่าจะทำให้เจต้องเจอกับคู่ต่อสู้ที่รูปร่างสูงใหญ่ แต่สไตล์การเล่นของฟุตบอลสเปนนั้นก็ไม่น่าจะเกินความสามารถของเจ้าเจแต่อย่างใด เพราะบอลสเปนนั้นขึ้นชื่อเรื่องการเล่นบอลบนพื้นซึ่งจะทำให้ความเสียเปรียบในการเล่นลูกกลางอากาศน้อยลง และที่สำคัญการเคลื่อนที่และการจ่ายบอลซึ่งเจทำได้ดีอยู่แล้วจะถูกนำออกมาใช้ได้มากขึ้นอีกด้วย เพราะฉะนั้นถ้าหากได้ไปเล่นกับเอลเช่จริงชนาธิปน่าจะเอาตัวรอดได้อย่างแน่นอน ส่วนจะประสบความสำเร็จมากแค่ไหนคงต้องดูผลงานโดยรวมของทีมอีกที การที่นักฟุตบอลของไทยได้มีโอกาสลงเล่นในลีกใหญ่ของยุโรปอย่างลาลีกานั้น ดูจะเป็นผลดีอย่างมากสำหรับพัฒนาการของฟุตบอลไทย ดังที่เราจะเห็นได้จากกรณีของธีรศิลป์ ที่ถึงแม้จะได้รับโอกาสน้อยไปหน่อยแต่ก็สามารถทำให้เจ้าตัวยกระดับฝีเท้าและความมั่นใจไปอีกระดับหนึ่ง จนสามารถไปโลดแล่นอยู่ในเจลีกได้ในปัจจุบัน และถ้าหากชนาธิปได้รับโอกาสนั้นเช่นกัน เชื่อว่ามันจะช่วยให้เขาสามารถยกระดับฝีเท้ามากขึ้นไปอีก ซึ่งมันจะเป็นประโยชน์ต่อทีมชาติไทยโดยตรงอย่างมากแน่นอน