ฟุตบอลไทย

หกแต้มที่ต้องเสียไปเพราะปัญหาเรื่องไฟล้วน ๆ ของสิงห์เจ้าท่า

ในเกมการแข่งขันกีฬาฟุตบอลโดยเฉพาะการแข่งขันในรูปแบบฟุตบอลลีกนั้น แต้มนั้นบอกเลยว่ามีค่าอย่างมหาศาลที่จะตัดสินความสำเร็จในปลายฤดูกาลของแต่ละทีม ดังนั้นการที่จะเสียแต่ละแต้มไปนั้นมันจะต้องหลังจากที่ทุกคนในทีมพยายามอย่างสุดความสามารถแล้วเท่านั้น และถ้าหากว่ามันยังไม่สามารถรักษาคะแนนอันล้ำค่าไว้ได้ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ และถ้าหากว่าการเสียคะแนนไปมันเกิดจากปัญหาภายนอกสนามในที่มันสุดวิสัยจริง ๆ มันก็เป็นเรื่องที่สุดวิสัยอย่างว่า ถ้าหากมันเกิดขึ้นแบบซ้ำซ้อนจนทำให้ทีมเสียไปถึง 6 คะแนนเต็ม ๆ มันก็เป็นเรื่องที่น่าเจ็บปวดทั้งกับทีม แฟนบอล และนักพนันไม่น้อยเลย แต่เรื่องที่ว่านี้มันก็เกิดขึ้นมาให้เห็นในการแข่งขันลีกอาชีพระดับไทยลีกของเรา และเกิดขึ้นกับทีมใหญ่ระดับ “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ เอฟซีอีกด้วย ซึ่งเมื่อวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมาก่อนเกมที่ท่าเรือจะเปิดสนามแพท สเตเดียม รับการมาเยือนของทางกิเลนผยอง เอสซีจี เมืองทอง และก่อนที่เกมจะเริ่มขึ้นไม่นานก็เกิดเหตุการณ์ไฟฟ้าในสนามดับขึ้นหลังจากมีเสียงระเบิดของหม้อแปลงไฟฟ้าของสนาม ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคของทีมก็พยายามอย่างเต็มที่ ที่จะทำให้กระแสไฟฟ้าสามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติเพื่อที่จะทำให้การแข่งขันสามารถดำเนินต่อไปได้ แต่ก็ไม่สามารถแก้ไขได้ทันเวลาและทำให้การแข่งขันมีอันต้องเลื่อนออกไป และถูกทางสมาคมปรับให้ทางการท่าเรือเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไป 0-2 พร้อมทั้งถูกปรับเป็นเงิน 50,000 อีกด้วย และที่สำคัญเหตุการณ์นี้มันเกิดขึ้นเป็นครั้งที่สองแล้วสำหรับการท่าเรือและสนามแพท สเตเดียมหลังจากที่มันเคยเกิดขึ้นมาแล้วในวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมาซึ่งพวกเขามีคิวเปิดบ้านรับการมาเยือนของโปลิส เทโร เอฟซี ซึ่งในเกมนั้นเหตุการณ์ไฟฟ้าในสนามดับเกิดขึ้นในระหว่างเกมการแข่งขัน ซึ่งทั้งสองทีมกำลังเสมอกันอยู่ที่สกอร์ 1-1 แต่สุดท้ายทางการท่าเรือก็มีอันต้องถูกปรับแพ้ไปด้วยสกอร์เดียวกันและโดนปรับไปอีก 50,000 เช่นกัน นั่นเท่ากับว่าในฤดูกาลนี้ทีมสิงห์เจ้าท่านั้นเสียแต้มไปถึงหกแต้มและค่าปรับรวมถึงหนึ่งแสนบาทจากกรณีไฟฟ้าขัดของเพียงอย่างเดียว ซึ่งถือว่าเสียมากเลยทีเดียวเพราะหกคะแนนที่พวกเขาเสียไปนั้น มันสามารถทำให้พวกเขาขยับจากกลางตารางในปัจจุบันขึ้นไปทาบจ่าฝูงอย่างบีจี ปทุมได้เลย และมันก็ทำให้เป็นเรื่องยากมากขึ้นที่พวกเขาจามคู่แข่งขึ้นไปเบียดลุ้นแชมป์เพราะไปต่อให้คู่แข่งถึงหกคะแนนเต็ม ตอนนี้ทางสโมสรการท่าเรือที่นำโดย “มาดามแป้ง” กำลังเร่งทำการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่โดยการยื่นเรื่องขอใช้สนามกลางในการแข่งขันแทน […]

ฟุตบอลไทย

อนุญาตไทยลีกถ่ายทอดสดออนไลน์ ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็ไม่พลาดชมทีมรัก

นับว่าเป็นข่าวดีอย่างมากสำหรับแฟนฟุตบอล และเซียนพนันที่ชอบดูบอลสด ๆ ของทุกสโมสรในไทยลีก 1 หลังจากที่ทางบริษัท ไทยลีก จำกัดได้มีการอนุญาตให้และสโมสรในไทยลีก 1 นั้นสามารถทำการถ่ายทอดสดเกมการแข่งขันนัดเหย้าของทีมตนเองลงบนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ ได้โดยจะเริ่มการถ่ายทอดสดนี้หลังจากวันที่ 25 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไปซึ่งก็คือหลังจากที่สัญญาของไทยลีกกับทางทรูวิชั่นสิ้นสุดลงนั่นเอง ซึ่งเมื่อสัญญาการถ่ายทอดสดที่มีอยู่กับทางทรูวิชั่นสิ้นสุดลง จะทำให้หน้าที่การผลิตสัญญาณการแข่งขันเพื่อถ่ายทอดสดนั้นตกเป็นของทางสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ร่วมกับบริษัท ไทยลีก จำกัด ที่จะทำการถ่ายทอดสดผ่านทางฟรีทีวี และล่าสุดนาย กรวีร์ ปริศนานันทกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ไทยลีก จำกัด ได้ออกมาเปิดเผยว่าหลังจากที่ได้มีการปรึกษาหารือกันทุกฝ่ายแล้วมีการกลงกันในเบื้องต้นที่จะให้สโมสรสามารถนำการแข่งขันนัดเหย้าของตนเองไปฉายในช่องทางออนไลน์เพื่อบริหารจัดการสิทธิประโยชน์และรายได้เพิ่มเติมในฤดูกาลนี้ สำหรับสโมสรฟุตบอลเองแล้วนี่ก็คงจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะทำให้และทีมสามารถหารายได้เข้ามาช่วยสโมสรอีกทางหนึ่ง เพราะการที่แฟนบอลเข้าชมเกมในสนามลดน้อยลงหลังจากที่มีการแพร่ระบาดของโควิด มันย่อมจะส่งผลกระทบโดยตรงไปยังรายได้ของทุกสโมสรอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลงไปบ้างแล้วก็ตาม ก็คงต้องใช้เวลาให้แฟนบอลมั่นใจในความปลอดภัยอีกพอสมควรเลยทีเดียว กว่าจะกลับมาแน่นสนามกันเหมือนเดิม และการได้สิทธิ์ถ่ายทอดเกมเหย้าของตนเองคงจะพอช่วยชดเชยค่าตั๋วได้พอสมควร แต่ฝ่ายที่ได้รับผลประโยชน์ไปแบบเต็ม ๆ เลยน่าจะเป็นในส่วนของแฟนบอล และนักพนันตัวยงอย่างเรา ๆ ท่าน ๆ นี่แหละ ที่จะสามารถติดตามการชมการแข่งขันของทีมที่รักได้แบบไม่มีพลาดไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหนของโลก เพียงแค่มีโทรศัพท์และสัญญาณอินเตอร์เน็ตเท่านั้นเอง และเชื่อว่าการถ่ายทอดสดผ่านสื่อออนไลน์ของสโมสรนั้นนอกจากจะได้รับชมเกมการแข่งขันแล้ว ยังจะมีกิจกรรมต่าง ๆ ให้แฟนบอลได้ร่วมสนุกเพื่อเป็นสีสันดึงดูดคนดูด้วยอย่างแน่นอน ดังนั้นการนอนอยู่ดูบอลอยู่ที่บ้านก็คงจะสนุกสนานไม่แพ้การเข้าชมติดขอบสนามอย่างแน่นอน บางทีอาจจะสนุกกว่าด้วยกับการเชียร์บอลผ่านหน้าจอร่วมกับคนในครอบครัวที่บ้าน การเริ่มต้นการถ่ายทอดสดผ่านสื่อออนไลน์ในครั้งนี้ บางทีมันอาจจะกลายเป็นทางออกสำหรับการชมและเชียร์ฟุตบอลแบบวิถีใหม่ก็เป็นได้ เพราะถ้าหากว่าปัญหาการระบาดมันกลับมาเล่นงานประเทศไทยอีกครั้ง  […]

ฟุตบอลไทย

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ทีมฟอร์มดีที่ดูแล้วปีนี้พวกเขาไม่ได้มาเล่น ๆ

สำหรับฟุตบอลไทยลีกในชั่วโมงนี้ทีมที่ฟอร์มร้อนแรงที่สุดคงจะหนีไม่พ้น บีจี ปทุม ยูไนเต็ดที่กำลังนำเป็นจ่าฝูงอย่างเหนียวแน่นในขณะนี้หลังจากที่ทำการแข่งขันกันไปแล้ว 7 นัด ซึ่งพวกเขาสามารถกวาดมาได้ถึง 19 คะแนนด้วยผลงานไร้พ่ายชนะ 6 เสมอ 1 เลยทีเดียว ทำให้ฤดูกาลนี้ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเข้าใกล้กับความฝันการเป็นแชมป์ไทยลีกมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ซึ่งในฤดูกาลนี้ทีมบีจีนั้นอยู่ภายใต้การคุมทีมของ “โค้ชโอ่ง” ดุสิต เฉลิมแสน อดีตแบ็คซ้ายทีมชาติไทยที่เข้ามาทำทีมบีจีตั้งแต่ปีที่แล้วซึ่งผลงานก็ถือว่าฝีมือไม่ธรรมดาเลยทีเดียว เพราะทางบีจีเองไปดึงตัวโค้ชโอ่งมาจากตราด เอฟซี เพื่อมากอบกู้สถานการณ์ของทีมซึ่งตกชั้นไปเล่นในไทยลีก 2 หลังจากที่เจ้าตัวเคยพาราด เอฟซีเลื่อนชั้นมาได้สำเร็จ และโค้ชโอ่งก็ไม่ทำให้ทีมงานและแฟนบอลบีจีผิดหวัง เมื่อสามารถพาทีมเลื่อนชั้นกลับสู่ลีกสูงสุดของประเทศโดยใช้เวลาพียงแค่ฤดูกาลเดียวเท่านั้นเอง มาถึงฤดูกาลนี้ฝีมือของโค้ชโอ่งก็ยิ่งเด่นชัดขึ้นไปอีกกับการพาทีมที่เป็นน้องใหม่ขึ้นมาเขย่าตารางไทยลีกได้ในทันทีโดยแท็กติกที่โค้ชโอ่งเลือกใช้ก็คือการเล่นแบบ 3-5-2 มีผู้รักษาประตูทีมชาติไทยอย่างฉัตรชัย บุตรพรม เป็นปราการด่านสุดท้าย ส่วนแผงหลักสามคนนั้นใช้เป็นเซ็นเตอร์ร่างยักษ์จากต่างชาติทั้งหมดคือ อันเดรส ตูเญส, อิรฟาน ฟานดี้, และวิคเตอร์ คาร์โดโซ่ ซึ่งเมื่อทั้งสามคนรวมกันแล้วต้องบอกเลยว่าแกร่งมาก ทั้งใหญ่ทั้งหนักทั้งเร็วแถมยังมีทีเด็ดจากการทำประตูอีกด้วย ขยับขึ้นมาดูที่แผงกองกลางสามประสานแดนกลางก็แน่นปึ๊กเลยทีเดียว โดยเป็นการประสานงานกันของสามผู้เล่นสัญชาติไทยอย่าง “กัปตันนิว” ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ “เจ้าตังค์” สารัช อยู่เย็น และ สุมัญญา ปุริสาย ที่ร่วมกันคุมแดนกลางและขับเคลื่อนเกมรุกได้อย่างไหลลื่น และส่วนคู่หัวหอกมีดาวรุ่งสัญชาติญี่ปุ่นอย่างมารุโอกะ และดาวรุ่งไทยอย่างเจนรบ […]